แกรี่
ริดจ์เวย์ เป็นฆาตกรผู้ชายที่ฆ่าผู้หญิง 48 หรืออาจจะถึง 65 คน ซึ่งต้องใช้กำลังตำรวจเพื่อสืบสวนจับกุมเขาเป็นจำนวนมาก
แม้กระทั่งในปัจจุบันยังมีคนจำนวนมากเลียนแบบการฆ่าของแกรี่ ริดจ์เวย์อยู่เรื่อยๆ
จึงมีศพปรากฏขึ้นในแม่น้ำสีเขียว ชานเมืองซีแอตเติลอยู่อย่างไม่ขาดสาย
วันที่ 15 สิงหาคม 1982 โรเบิร์ต
ไอน์สเวิร์ท กำลังล่องแพยางในแม่น้ำซึ่งไหลผ่านชานเมืองซีแอตเติล โดยเขาสังเกตเห็นชายสองคนอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำ
จึงโบกเมือทักทาย จากนั้นไม่นานไอน์สเวิร์ทก็มองเห็นวัตถุอย่างหนึ่งลอยน้ำมา เมื่อเอาไม้เขี่ยดูเขาจึงพบว่าสิ่งนั้นไม่ใช่วัตถุ
แต่เป็นศพของผู้หญิง แต่นั่นไม่ใช่ศพเดียว เพราะยังมีศพผู้หญิงผิวดำในลักษณะกึ่งเปลือยลอยตามน้ำมาอีกหนึ่งศพ
เมื่อตำรวจมาถึงจึงได้ปิดกั้นบริเวณที่พบศพ แต่แล้วก็พบกับอีกศพหนึ่งอยู่บนผืนหญ้าริมฝั่งห่างจากศพแรกไม่มากนัก หลังการชันสูตรทั้งหมด ระบุว่า ทั้งสามเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ ภายในร่างของศพมีหินรูปร่างเหมือนพีระมิดอยู่ในช่องคลอด จากการพบศพทั้งสามนั้น ตำรวจเชื่อว่าอาจเป็นฝีมือฆาตกรคนเดียวกัน และจากการตรวจสอบพบว่ายังมีการพบอีกหลายศพในบริเวณเดียวกัน
เมื่อรู้ว่ามีการฆาตกรรมต่อเนื่องเกิดขึ้น
รัฐวอชิงตันได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจเพื่อตามล่านักฆ่าลุ่มแม่น้ำเขียว โดยตำรวจพบว่าเหยื่อผู้หญิงทั้งหลายที่ถูกฆ่านั้นต่างรู้จักกัน
เนื่องจากหญิงเหล่านั้นมีอาชีพเป็นโสเภณี ตำรวจจึงเริ่มสอบสวนโสเภณีตามที่ต่างๆ แต่ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือมากนัก
แต่กระนั้น ตำรวจก็ยังได้เบาะแสเกี่ยวกับชายวัยกลางคน ซึ่งขับรถปิกอัพสีฟ้าขาว
โดยได้ว่าจ้างโสเภณีบางคน และข่มขืนเธออย่างรุนแรง ด้วยเหตุนี้ตำรวจเริ่มเจาะจงตามหาตัวชายในปิกอัพสีเขียว
เพราะเชื่อว่าเขาน่าจะเป็นคนเดียวกับฆาตกรลุ่มแม่น้ำเขียว ตำรวจพบผู้ต้องสงสัยหลายราย
โดยในระหว่างนั้นยังมีหญิงสาวถูกฆ่าอย่างต่อเนื่อง โดยผู้หญิงส่วนมากอายุระหว่าง 15-23
ปี และเป็นโสเภณี หรือนักระบำเปลือย
ต่อมาการพบศพมีจำนวนลดลง แต่การสืบสวนยังดำเนินต่อไป ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ใกล้กับวันประหารเทด
บันดี ฆาตกรต่อเนื่องสุดโด่งดังพอดี โดยเทดได้เสนอตัวขอช่วยเหลือตำรวจวิเคราะห์สภาพจิตฆาตกร
ซึ่งเทดแนะว่าฆาตกรต้องรู้จักเหยื่อของเขา
หรือไม่ก็มีความสัมพันธ์ฉันมิตรก่อนจะล่อลวงเหยื่อ หน่วยเฉพาะกิจไล่ล่านักฆ่าลุ่มแม่น้ำเขียวถูกมองว่าขาดประสิทธิภาพเพราะผู้ต้องสงสัยในคดีถูกปล่อยทุกราย จนคดีนักฆ่าลุ่มแม่น้ำเขียวถูกลืมไปตามกาลเวลา
จนภายหลังได้มีการรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ โดยได้เพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ ในเรื่องการพิสูจน์ดีเอ็นเอเข้าไปด้วย
หลักฐานทุกชิ้นเกี่ยวกับฆาตกรถูกนำไปตรวจสอบในห้องแล็ปใหม่อีกครั้ง
ตำรวจนำตัวอย่างน้ำกามที่พบในศพไปตรวจ ในที่สุดจึงประสบความสำเร็จ
เพราะน้ำอสุจินั้นเข้ากับตัวอย่างที่เก็บจากผู้ต้องสงสัยคนหนึ่ง ซึ่งก็คือ แกรี่
ริดจ์เวย์
ชื่อของแกรี่
ริดจ์เวย์ อยู่ในบัญชีผู้ต้องสงสัย มาตั้งแต่ก่อนเกิดคดีนักฆ่าลุ่มแม่น้ำสีเขียว
เพราะเขามีประวัติรัดคอโสเภณีไม่ทราบชื่อคนหนึ่ง แต่คราวนั้นเขาอ้างว่าถูกผู้หญิงกัด
และเขาทำเพื่อการป้องกันตัว จึงได้รับการปล่อยตัวออกมา แกรี่ ริดจ์เวย์ ยังเคยถูกสอบปากคำเพราะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของแมรี่
มอลเวอร์ หนึ่งในเหยื่อของนักฆ่าลุ่มแม่น้ำเขียว แต่ในขณะนั้นตำรวจไม่มีหลักฐานเอาผิดกับริดจ์เวย์มากนัก
จึงต้องปล่อยริดจ์เวย์กลับบ้าน
ในที่สุดริดจ์เวย์ก็สารภาพว่า
ตนนี้แหละคือ นักฆ่าลุ่มแม่น้ำเขียว ตัวจริง โดยช่วงที่เขาฆ่าผู้หญิงอยู่นั้น
เขาทำงานเป็นลูกจ้างทาสีรถบรรทุก ซึ่งมีผลให้เขามีรถขับในช่วงนั้นหลายคัน
หลายยี่ห้อ ภรรยาเก่าและบรรดาแฟนเก่าทั้งหลายต่างบอกว่า
ริดจ์เวย์มีความมักมากในกามที่ผิดปกติ ต้องการร่วมเพศวันละหลายครั้ง และชอบใช้บริการโสเภณีอีกด้วย
แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ยังเป็นคนเคร่งศาสนาจนเรียกได้ว่าคลั่งไคล้ และบ่อยครั้งที่เขามักร้องไห้ในขณะสวดมต์และอ่านคัมภีร์ไบเบิล
ริดจ์เวย์จึงมีทั้งความรักและความเกลียดชังโสเภณีในขณะเดียวกัน
แกรี่ ริดจ์เวย์ วัย 54 ปี
ยอมรับสารภาพเพื่อหลีกเลี่ยงโทษประหาร โดยมีข้อตกลงกับทางการว่า
เขาต้องให้ความร่วมมือในการปิดคดีเหล่านี้โดยปราศจากทัณฑ์บน เขาสารภาพว่าเขาสังหารผู้หญิงทั้งหมด 48 คน
โดยยอมรับว่าเขาเลือกฆ่าโสเภณีก็เพราะคิดว่าเขาสามารถฆ่าเท่าที่จะฆ่าได้โดยไม่ถูกจับ
โดยที่เขาเลือกเฉพาะโสเภณีที่เป็นเหยื่อก็เพราะพวกเธอไปด้วยได้ง่าย
โดยไม่มีใครสังเกตเห็น และไม่มีใครสนใจเวลาที่พวกเธอหายตัวไป
ถึงแม้ริดจ์เวย์จะสารภาพว่าเขาสังหารผู้หญิงไปทั้งหมด 48 คนแล้วก็ตาม แต่ต่อมาตำรวจยังพบศพผู้หญิงจำนวนมาก ซึ่งเกินจำนวนที่ริดจ์เวย์สารภาพ
แสดงให้เห็นว่าริดจ์เวย์อาจฆ่าผู้หญิงมากกว่านั้นหรือไม่ก็มีฆาตกรลุ่มน้ำเขียวคนอื่นๆ
อีก ในปัจจุบันยังมีรายงานการพบศพในลุ่มน้ำเขียวเรื่อยๆ อย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น